ปวดประจำเดือน หรือ ปวดท้องเมนส์ Dysmenorrhea อาการปวดท้องแบบนี้สาวๆทุกคนต้องเคยเป็นอย่างแน่นอน บางคนมีอาการปวดอย่างรุนแรง และไม่รู้ว่าต้องทำไง และบางคนปวดบ่อยทุกเดือน วันนี้เรามีข้อมูลวิธีลดอาการปวดประจำเดือน เพื่อที่ให้สาวๆลองนำไปปฏิบัติดู เผื่อว่าจะช่วยให้อาการปวดเหล่านี้บรรเทาขึ้นได้ค่ะ
5 วิธีเอาอยู่..ลดอาการปวดประจำเดือน
Contents
คงไม่มีผู้หญิงคนไหนที่จะปฏิเสธได้ว่า อาการปวดประจำเดือนไม่เคยนำความเจ็บปวดมาให้ แต่จะมากบ้างน้อยบ้างแตกต่างกันไปตามสภาวะร่างกายของคนนั้นๆ บางคนปวดแทบจะลุกไม่ขึ้น ไม่มีแรงที่จะทำงาน หรือแม้แต่ต้องหยุดลางานไปกันเลยก็มี ในขณะที่อีกบางคนมีความรู้สึกปวดเพียงบางเบา ไม่นานก็หายไป เราจะเห็นได้ว่า อาการปวดประจำเดือนนั้นได้กลายมาเป็นของคู่กันกับผู้หญิงที่เราต้องเจอหน้ากันแทบจะทุกเดือน แต่เราจะทำอย่างไรดีที่จะช่วยบรรเทาอาการปวดท้องประจำเดือนของตนเอง หรือ บอกต่อให้พี่สาวน้องสาวตลอดจนเพื่อนสาวคนสนิทให้มีอาการปวดที่ทุเลาลง
วันนี้เรามีคำตอบด้วย 5 วิธีเอาอยู่..ลดอาการในระบบสืบพันธุ์ของผู้หญิงนั้น จะมีการทำงานที่ประสานกันของฮอร์โมนที่มีต่ออวัยวะที่เกี่ยวข้องกับระบบสืบพันธุ์ทั้งรังไข่ โพรงมดลูก ปากมดลูก และช่องคลอด ในทุกๆ 28 วันหรือประมาณหนึ่งเดือนนั้น ผู้หญิงจะเกิดมีเลือดผ่านจากช่องคลอดซึ่งเลือดเหล่านั้นเป็นเลือดที่เกิดจากการลอกตัวของเยื่อบุมดลูกที่เตรียมไว้สำหรับการปฏิสนธิของไข่ และอสุจิ เมื่อรังไข่ถูกกระตุ้นแล้ว จะเกิดการตกไข่ขึ้นมา ในระหว่างนั้นโพรงมดลูกจะอุดมไปด้วยเยื่อบุมดลูกที่ทยอยหนาตัวขึ้นเรื่อยๆ มีลักษณะหนานุ่ม มีเลือดจำนวนมากหล่อเลี้ยงบริเวณนั้นเพื่อให้มีสภาวะที่เหมาะสมกับการฝังตัวของตัวอ่อนเมื่อเกิดการปฏิสนธิขึ้นมา
แต่หากว่าการปฏิสนธิไม่เกิดขึ้น และไข่ฝ่อเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เยื่อบุมดลูกที่หนาตัวอยู่ก็จะทยอยหลุดลอกออกมาเป็นเลือดประจำเดือนที่เราเรียกกันนั่นเอง และในช่วงที่มีการหลุดลอกของเยื่อบุโพรงมดลูกนั้นจะเกิดการบีบตัว เกร็งตัวอย่างรุนแรงของมดลูกเพื่อทำการขับเลือดประจำเดือนนั้นให้ออกมา ดังนั้นอาการปวดท้องประจำเดือนที่ไม่น่าพิศวาสจึงเกิดขึ้นกับผู้หญิงอย่างเรา ดังนั้นอาจเป็นไปได้ว่า หากรอบเดือนใดเรารู้สึกปวดท้องประจำเดือนมากเป็นพิเศษสอดคล้องกับเลือดประจำเดือนที่มามาก นั่นก็แสดงว่า ในเดือนนั้นมีการสร้างเยื่อบุโพรงมดลูกค่อนข้างมาก มดลูกจึงต้องบีบตัวให้มากขึ้นตามไปด้วย
แต่อย่างไรก็ตามทางที่ดี หากเรารู้สึกว่า อาการปวดท้องประจำเดือนครั้งนี้มีความแตกต่างจากครั้งอื่นๆ อย่างผิดปกติ สาวๆ ก็ควรที่จะไปเข้ารับการตรวจอย่างละเอียดจากสูตินรีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นได้แต่เนิ่นๆ ส่วนถ้าเป็นอาการปวดท้องประจำเดือนแบบปกติมากบ้าง น้อยบ้าง ไม่ผิดปกติอะไร 5 วิธีลดอาการปวดท้องประจำเดือนนี้จะช่วยสาวๆ ได้
วิธีที่ 1
น้ำอุ่นหรือดื่มชาคาโมไมล์อุ่นๆ ทั้งน้ำอุ่นจะช่วยบรรเทาอาการปวดที่มีอาการปวดน้อยๆ ได้เป็นอย่างดี แค่สาวๆ เปลี่ยนจากน้ำเย็นมาเป็นน้ำอุ่นก็จะช่วยให้เราผ่านพ้นช่วงปวดประจำเดือนไปได้ ส่วน ชาคาโมไมล์นั้นมีกรดอะมิโนไกลซีนที่สามารถบรรเทาอาการกล้ามเนื้อหดเกร็งได้ จึงช่วยให้มดลูกคลายตัว อาการปวดจึงลดลง
วิธีที่ 2
กระเป๋าน้ำร้อน การใช้กระเป๋าน้ำร้อน หรือ ผ้าอุ่นๆ หรือ แผ่นให้ความร้อนนั้นมาประคบอุ่นที่ท้องน้อย เพราะความร้อนจะช่วยทำให้กล้ามเนื้อที่ตึงอยู่ เกิดการผ่อนคลายลง ทำให้ความเจ็บปวดลงได้ โดยประคบบนท้องน้อยทิ้งไว้สักครู่ แล้วเปลี่ยนบ่อยๆ เพื่อให้ท้องน้อยได้รับความร้อนที่สม่ำเสมอ ตลอดเวลา แต่อย่างไรก็ตามควรระวังโดนความร้อนลวก หากร้อนมากเกินไปควรหาผ้าผืนหนามาพันกระเป๋าน้ำร้อนอีกทีก่อนประคบที่ท้องน้อย
วิธีที่ 3
ยาแก้ปวด การใช้ยาแก้ปวดประจำเดือน สามารถใช้ยาพาราเซตามอล หรือ แอสไพริน ในการบรรเทาอาการปวดได้บ้าง แต่อย่างไรก็ตาม การใช้ยาแก้ปวด ที่เป็นยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) จำพวก ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) ไดโคลฟีแนค(Diclofenac) นาโพรเซน(Naproxen) กรดเมเฟนามิค(Mefenamic acid) ก็จะช่วยบรรเทาอาการปวดให้ทุเลาลงได้รวดเร็วกว่ายาแก้ปวดข้างต้น แต่สาวๆ อย่ารับประทานติดต่อกันนานจนเกิน 7 วันนะค่ะ เพราะนอกจากจะไม่เกิดประโยชน์แล้วอาจเป็นอันตรายเพิ่มขึ้นได้
วิธีที่ 4
อาหารเสริม นอกจากการใช้ยาต้านการอักเสบช่วยแก้ปวดแล้ว เรายังสามารถใช้อาหารเสริมลดอาการปวดได้เช่นกัน และปลอดภัยมากกว่า แม้จะไม่สามารถแก้ปวดได้แบบหายทันทีก็ตาม อย่างพวก แคลเซียมซิเทรต ที่จะช่วยรักษาความตึงตัวของกล้ามเนื้อได้ วิตามินอี อาจมีส่วนช่วยลดอาการปวดประจำเดือนได้แมกนีเซียม จะช่วยลดสารพรอสตาแกลนดินที่ถูกหลั่งออกมาในช่วงมีประจำเดือนได้ ซึ่งช่วยลดอาการได้เป็นอย่างดี และกรดโอเมก้า 3 ยังช่วยลดอาการปวดประจำเดือนได้ไม่แพ้กัน
วิธีที 5
การนอน วิธีลดการปวดท้องที่ดีก็คือ การนอนแต่ท่านอนที่ควรทำก็คือ การขดตัว เป็นท่าที่ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อท้อง แต่ไม่ควรนอนขดตัวเป็นเวลานาน คุณต้องลุกเดินไปเดินมาบ้างเพื่อเปลี่ยนอิริยาบถท่านอนตะแคงไปทางด้านซ้ายนั้น จะช่วยลดอาการปวดประจำเดือนและอาการปวดบริเวณอื่น ๆ ช่วงหน้าท้องได้ดีกว่าการนอนตะแคงขวา และท่านอนคว่ำเอาหมอนหนุนช่วงท้องน้อยจะช่วยคลายความเกร็งตึงของกล้ามเนื้อได้ดีขึ้น
ดังนั้น เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว อย่าปล่อยให้อาการปวดประจำเดือนมารบกวนจิตใจ และร่างกายกันอีกเลยคะ ลองเอาสักวิธีที่เหมาะกับสาวๆ ไปลองปรับใช้ดูแล้วสาวๆ จะรู้ว่า อาการปวดจะลดลงทันตา
(No Ratings Yet)
Loading...
