วัณโรค อาการของโรควัณโรค 5 อย่างที่ผู้ป่วยจะต้องทราบ

วัณโรค / วัณโรคปอด (Tuberculosis) วัณโรค อาการ สาเหตุ การดูแลรักษาเพื่อไม่ให้เชื้อกระจาย วันนี้เรารวบข้อมูลเกี่ยวกับโรควัณโรค ซึ่งหลายคนต้องการทราบว่า วัณโรคมีกี่ระยะ รักษาหายไหม เกิดขึ้นบริเวณใดบ้าง ติดต่อกันด้วยสาเหตุอะไร ถ้าพร้อมแล้วเรามารู้จักรู้นี้กันให้มากขึ้นกันดีกว่าเพื่อดูแลป้องกันไม่ให้เกิดกับท่านหรือผู้คนรอบตัว หรือ สำหรับการดูแลผู้ป่วย

อาการ”วัณโรค” 5 อย่างที่ผู้ป่วยจะต้องทราบ

โรคในประเทศไทยนั้นมีโรคใดบ้างที่คนเรามักจะมีความกลัว ยกตัวอย่างเช่น โรคเอดส์ที่เป็นโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องชนิดหนึ่งที่ใครๆก็กลัว เหตุที่เป็นโรคที่ติดต่อที่มีความรุนแรงอย่างมาก เพราะด้วยโรคนั้นเป็นโรคที่สามารถจะติดต่อได้จากการสัมผัสนั่นเอง ซึ่งเป็นการสัมผัสที่เป็นการสัมผัสโดยทางเพศสัมพันธ์ซึ่งการสัมผัสกันในลักษณะแบบนี้มีโอกาสที่ติดต่อได้อย่างแน่นอน หรือจะเป็นการใช้จานชามร่วมกันโดยไม่มีการป้องกันก็สามารถที่จะเกิดการติดเชื้อได้เช่นเดียวกัน

หรือจะเป็นโรควัณโรคก็ตามก็เป็นโรคๆหนึ่งที่ใครๆก็ต้องหวาดกลัวอย่างมาก เพราะเหตุที่ติดต่อได้ง่ายดายมากๆด้วยการหายใจ ซึ่งหากผู้ป่วยที่เป็นวัณโรคนั้นมีการเผยแพร่เชื้อด้วยการอยู่ในที่ที่มีผู้คนมากมายล่ะก็รับรองได้ว่าคนส่วนใหญ่ก็ต้องได้รับเชื้อวัณโรคดังกล่าวอย่างแน่นอน ซึ่งการที่อยู่ในที่ที่มีคนเยอะนั้นเราก็ไม่อาจที่จะทราบได้เลยว่าใครมีเชื้อวัณโรคอยู่บ้าง ฉะนั้น ทางที่ดีเราจึงควรที่จะป้องกันตัวเองด้วยการใช้ผ้าปิดจมูกทุกครั้งที่ไปในที่ชุมชน

ซึ่งสามารถที่จะป้องกันตนเองมิให้มีเชื้อวัณโรคได้ในระดับหนึ่ง ฉะนั้น ในที่นี้เราขอพูดถึงโรคติดต่อที่หลายๆคนกลัวมากที่สุดที่เราไม่สามารถจะทราบได้เลยว่าใครเป็นบ้าง ดังนั้น ในที่นี้จึงมีการอธิบายถึงอาการของวัณโรคที่เราสามารถที่จะสังเกตได้อย่างง่ายๆ ดังนี้

1. การมีไข้

เริ่มด้วยอาการที่เป็นไข้ แต่การเป็นไข้ของวัณโรคนั้นไม่ใช่ไข้ในลักษณะที่เป็นแบบหายไปเลยแต่จะเป็นไข้ในลักษณะของเรื้อรัง กล่าวคือ เป็นไข้อย่างต่อเนื่องไม่หายขาดเลยบวกกับไข้ที่เป็นนั้นจะเป็นไข้ต่ำๆไม่มีไข้สูงมากเหมือนกับคนที่เป็นไข้หวัดใหญ่ ในส่วนนี้อาจจะทำให้เป็นที่สังเกตได้ยากมากหรือบางคนก็อาจจะไม่ได้สังเกตอาการก็ได้ เพราะอาจจะคิดว่าเป็นเพราะภูมิอากาศที่มีความแปรปรวนอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งในเรื่องของสภาพอากาศดังกล่าวนี้ก็เป็นสาเหตุที่จะทำให้ผู้ป่วยนั้นไม่ทราบได้เลยว่าตนเองเป็นวัณโรคหรือไม่

หรืออาจจะเป็นเพราะบางคนนั้นคิดว่าตนเองมีภูมิต้านทานต่ำจึงทำให้เกิดไข้ได้ง่ายก็ได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เราขอแนะนำให้คุณสังเกตว่าไข้ที่เป็นดังกล่าวนั้นเป็นไข้ที่อยู่ในช่วงใด หากไข้ดังกล่าวนั้นปรากฏในช่วงตอนบ่ายๆหรือตอนเย็นแล้วล่ะก็ อีกทั้ง ยังเป็นไข้ลักษณะเรื้อรังอยู่เป็นระยะเวลานานๆ คุณสามารถที่จะทราบได้เลยว่านี่ คือ สัญญาณที่จะบอกว่าคุณว่า คุณนั้นเป็นวัณโรคแล้ว

2. เหงื่อออก

ปกติคนเรานั้นมักจะมีเหงื่อออกในช่วงที่มีอากาศร้อนเท่านั้น แต่หากสภาพอากาศในช่วงนั้นก็ไม่ได้ร้อนถึงขนาดที่คุณจะต้องเหงื่อออกแล้วล่ะก็ คุณก็สามารถที่จะระวังได้เลยว่าเป็นวัณโรคหรือไม่ ซึ่งวัณโรคนั้นการที่จะมีเหงื่อออกซึ่งเป็นอาการของวัณโรคคุณก็จะต้องมีเหงื่อออกในช่วงตอนกลางคืนเท่านั้น เพราะหากคุณมีเหงื่อออกในช่วงเช้าแล้ว คงไม่เข้าหลักเกณฑ์ในกลุ่มของอาการวัณโรค

3. มีอาการอ่อนเพลีย เบื่ออาหารผิดปกติ และน้ำหนักลดลง

อาการที่มีความอ่อนเพลียที่เป็นอาการของวัณโรคนั้นคุณจะต้องสังเกตตนเองด้วยว่า ความอ่อนเพลียที่เกิดมานั้นเป็นเพราะอะไร อย่างเช่น คุณทำงานหนักไปหรือป่าว หรือมีการทำกิจกรรมใดๆที่จะต้องใช้แรงงานหรือไม่ และกิจกรรมดังกล่าวนั้นเป็นกิจกรรมที่กระทำอย่างต่อเนื่องหรือไม่ หรือคุณเป็นคนที่ชอบออกกำลังกายหรือไม่ เป็นต้น เพราะที่กล่าวมานั้นเป็นสาเหตุที่ทำให้คนเรามีความอ่อนเพลียอยู่แล้ว แต่ถ้าหากคุณไม่ได้กระทำกิจกรรมใดๆเลยแต่คุณมีความอ่อนเพลียโดยไม่มีสาเหตุ ฉะนั้น คุณอาจจะสังเกตตนเองได้เลยว่าเป็นอาการของวัณโรคหรือไม่

ซึ่งความอ่อนเพลียของวัณโรคนั้น แม้ว่าคุณจะมีการพักผ่อนอย่างเพียงพอแล้วในแต่ละวันก็ตาม แต่ร่างกายก็ยังมีความอ่อนเพลียอยู่ คุณจึงสามารถที่จะคาดเดาได้เลยว่าคุณนั้นอาจจะเข้าค่ายผู้ป่วยวัณโรคได้ และด้วยความอ่อนเพลียนั้นก็ส่งผลต่อการเบื่ออาหาร อีกทั้งน้ำหนักก็ลดลงไปด้วย

4. การไอ

อาการของวัณโรคที่ใครๆต่างก็ต้องหลบหลีกเมื่อเจออาการดังกล่าว คือ การไอ ซึ่งการไอนั้นเป็นการไอเรื้อรังที่มีลักษณะแห้งๆ ซึ่งการไอในลักษณะแบบนี้อาจจะเป็นอยู่หลายเดือนเลยก็ว่าได้ แต่หากเป็นอาการที่หนักมากแล้วบางรายถึงกับไอแบบมีเสมหะปะปนมาด้วยและการไอนั้นก็จะเป็นการไอที่มีเสียงดังมากขึ้น

ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าวัณโรคนั้นเป็นโรคที่เกี่ยวกับปอดโดยตรง หากปอดมีแผลหรือมีรูรั่วนั่นหมายถึงโอกาสที่คุณจะมีความเสี่ยงในการเป็นวัณโรคก็มีอยู่สูง และผู้ป่วยวัณโรคที่ไอบ่อยๆก็มักจะมีอาการเจ็บที่ชายโครงร่วมด้วยในขณะที่มีการไอ และบางคนก็อาจจะถึงขั้นหนักมากจนมีการไอที่ออกมาเป็นเลือดก็ได้ เป็นต้น

5. อาการที่แทรกซ้อน

เมื่อคุณได้สังเกตอาการของคุณครบในทุกๆข้อที่กล่าวมาแล้ว สิ่งหนึ่งที่ผู้ป่วยวัณโรคต้องระวัง ก็คือ อาการแทรกซ้อนที่อาจจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้ไม่มีใครที่สามารถจะกำหนดได้ ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับการแพร่เชื้อของวัณโรคที่อยู่ภายในร่างกายนั่นเอง ซึ่งอาการที่แทรกซ้อนกับวัณโรคที่มักจะพบ ได้แก่ ฝีในปอด หรือการมีน้ำในช่องหุ้มปอด เป็นต้น

จะเห็นได้ว่า อาการของวัณโรคที่กล่าวมา 5 ข้อนั้น ตัวคุณเองสามารถที่จะสังเกตได้ว่าตรงตามที่กล่าวมาหรือไม่ หรือจะเป็นการสังเกตคนใกล้ชิดของเราก็ได้ว่ามีอาการดังกล่าวหรือไม่ เพราะหากมีอาการดังกล่าวแล้ว เราขอให้คุณรีบทำการรักษาในทันทีโดยการพบแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญโดยเฉพาะ เพราะหากมีการทิ้งไว้ให้เชื้อวัณโรคนั้นลุกลามไปแล้วโอกาสของผู้ป่วยวัณโรคที่จะรอดชีวิตนั้นมีไม่สูงมากนัก และเป็นการที่จะทำให้ผู้อื่นได้รับเชื้อวัณโรคดังกล่าวไปด้วย ดังนั้น เราจึงต้องเฝ้าระวังอาการต่างๆที่มีลักษณะใกล้เคียงกับวัณโรคให้ดีเพื่อไม้ให้เชื้อวัณโรคนั้นแพร่กระจายไปมากกว่าเดิม

(No Ratings Yet)

Loading...