ว่านหางจระเข้ สรรพคุณว่านหางจระเข้ พืชสารพัดประโยชน์ประจำบ้าน

3222

ว่านหางจระเข้ (Aloe Vera) ชื่อวิทยาศาสตร์ Aloe vera (L.) Burm.f. สรรพคุณของว่านหางจระเข้ และประโยชน์ที่มากมายต่อพวกเราทั้งภายในและภายนอก ตามรายละเอียดดังนี้

ว่านหางจระเข้ สรรพคุณของว่านหางจระเข้

เราคงคุ้นตากับผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของว่านหางจระเข้เป็นอย่างดี แต่คุณรู้ไหมคะว่าการใช้ต้นว่านหางจระเข้สดๆ เพื่อนำมาใช้งานด้านต่างๆ ก็มีคุณประโยชน์ที่หลากหลายไม่แพ้กัน นั่นก็เพราะว่านหางจระเข้มีสรรพคุณที่หลากหลายนั่นเอง บทความของเราวันนี้จึงขอพาทุกท่านมารู้จักกับสรรพคุณของว่านหางจระเข้ พืชสารพัดประโยชน์ประจำบ้านกันให้มากขึ้นค่ะ

ว่านหางจระเข้ (Aloevera) เป็นพืชล้มลุกที่มีถิ่นกำเนิดจากแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและทางตอนใต้ของทวีปแอฟริกา ลำต้นเมื่อโตเต็มที่จะสูงประมาณ 1 เมตร มีลักษณะเป็นปล้องสั้นๆ ใบเดี่ยวยาวหนา อวบน้ำ แผ่นใบมีสีเขียวเข้มและมีจุดสีขาวอยู่ประปราย บริเวณริมใบมีหนามแหลมเล็กสีขาวอยู่เป้นระยะ ส่วนเนื้อใบเต็มไปด้วยวุ้นสีเขียวอ่อน ซึ่งส่วนวุ้นเป็นส่วนที่คนนิยมนำมาใช้ประโยชน์มากที่สุด

ในเนื้อว่านหางจระเข้มีสารที่ช่วยรักษาแผลไฟไหม้หรือน้ำร้อนลวก นั่นคือสาร Glycoprotein ชื่อว่า Aloctin A ซึ่งสารนี้เป็นสารประเภทที่เราสามารถพบได้ในทุกๆ ส่วนของว่านหางจระเข้ แต่นอกเหนือจากสรรพคุณในการรักษาแผลสดแผลไฟไหม้แล้ว ว่านหางจระเข้ยังมีสรรพคุณอื่นๆ อีกมากมายค่ะ

สรรพคุณของว่านหางจระเข้ พืชสารพัดประโยชน์คู่ครัวไทย

ว่านหางจระเข้มีสรรพคุณในการต่อต้านอนุมูลอิสระ จึงช่วยลดเลือนริ้วรอยก่อนวัย ช่วยต่อต้านความแก่ชะรา และยังมีสรรพคุณเพิ่มภูมิต้านทานโรคให้กับร่างกายของเรา
ในเนื้อว่านหางจระเข้นั้นอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ และยังมีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกายหลายชนิดไม่ว่าจะเป็นแมกนีเซียม ทองแดง โพแทสเซียม แมงกานีส โครเมียม ซีลีเนียม วิตามินเอ วิตามินซี วิตามิอี ไปจนถึงวิตามินบีชนิดต่างๆ และโคลีน
ว่านหางจระเข้มีสรรพคุณช่วยทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานเป็นปกติ ช่วยทำความสะอาดลำไส้ นอกจากนี้ยังสามารถชำระล้างของเสียในร่างกาย ช่วยดีท็อกซ์สารพิษ และลดปริมาณแบคทีเรียที่ไม่ดีต่อลำไส้
สารสกัดจากว่านหางจระเข้มีสรรพคุณที่สามารถช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในร่างกาย ช่วยลดความดันโลหิต ทำให้ความดันโลหิตเป็นปกติ นอกจากนี้ยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ
น้ำว่านหางจระเข้มีสรรพคุณป้องกันและแก้อาการเมาเรือได้
วุ้นของว่านหางจระเข้มีสารอนุมูลอิสระสูง สามารถนำมาทาผิวเป็นประจำจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งผิวหนัง
ว่านหางจระเข้มีสรรพคุณในการบำรุงผิวพรรณ เนื้อเจลจากว่านหางจระเข้สามารถนำมาทาผิวได้ทั่วร่างโดยเฉพาะบริเวณที่หยาบกร้าน จะช่วยทำให้ผิวส่วนนั้นนุ่มขึ้น เรียบเนียน ลดอาการแห้งแตกของผิว และยังทำให้ผิวเต่งตึง สุขภาพดี ช่วยลดริ้วรอยแห่งวัยได้ขึ้นด้วย
ว่านหางจระเข้ออกฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ จึงช่วยยับยั้งสาเหตุของการเกิดสิว ช่วยให้สิวแห้งไวและยังช่วยสมานแผล ไม่ทำให้เกิดรอยแผลเป็นและรอยดำจากสิว นอกจากนี้สรรพคุณของว่านหางจระเข้ยังช่วยป้องกันการเกิดฝ้าจากแดดได้ด้วย โดยการใช้เนื้อเจลว่านหางจระเข้ทาผิวเป็นประจำทุกวัน
วุ้นสดๆ ที่ล้างยางออกของว่านหางจระเข้ช่วยบำรุงผมให้นุ่มสลวย ทำให้ผมแข็งแรงและดกดำ นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันและขจัดรังแคได้อีกด้วย สามารถนำเนื้อวุ้นมาชโลมลงบนเส้นผมได้โดยตรง หมักไว้ 30 นาทีแล้วล้างออก จากนั้นสระผมตามปกติ
สามารถนำมาผลิตเป็นเครื่องสำอางและสกินแคร์จากธรรมชาติ ปราศจากสารเคมีได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นครีมทาหน้า แชมพู สบู่ ไปจนถึงโลชั่นทาผิวชนิดต่างๆ ก็ได้รับความนิยมเช่นเดียวกัน

เคล็ดลับสำหรับการใช้ว่านหางจระเข้

เลือกใช้ใบที่อวบใหญ่จากต้นว่านหางจระเข้ที่โตเต็มที่หรือมีอายุ 1 ปีขึ้นไป เพราะจะได้ประโยชน์อย่างเต็มที่มากกว่าใช้ต้นอ่อน
วุ้นของว่านหางจระเข้มีสรรพคุณในการฆ่าเชื้อโรค ดังนั้นในขั้นตอนการปอกเพื่อนำวุ้นออกมาจึงควรใช้มีดที่ผ่านการฆ่าเชื้อมาแล้วด้วย
เปลือกของว่านหางจระเข้มีสารสารแอนทราควิโนน (Anthraquinone) ที่ทำให้ผิวแพ้และระคายเคืองได้ ดังนั้นหลังจากนำวุ้นออกมาแล้วต้องล้างให้สะอาดด้วย
เนื้อวุ้นสดๆ จากต้นว่านหางจระเข้จะอยู่คงตัวได้ไม่เกิน 6 ชั่วโมงเท่านั้น นอกจากนี้การใช้วุ้นสดจากต้นจะมีสรรพคุณมากกว่าวุ้นว่านหางจระเข้แบบแปรรูป
เราสามารถนำเนื้อวุ้นไปแช่เย็นก่อนนำมาทาผิวได้ จะช่วยทำให้รู้สึกสดชื่นมากยิ่งขึ้น
เครื่องดื่มที่ทำจากว่านหางจระเข้มีสรรพคุณเป็นยาระบายอ่อนๆ ดังนั้นจึงไม่ควรให้สตรีมีครรภ์หรือผู้ที่กำลังท้องร่วง ท้องเสียและเป็นโรคริดสีดวงทหารดื่ม
หากใช้วุ้นที่ผิวหนังแล้วเกิดอาการระคายเคืองหรือผื่นแดงให้หยุดใช้ทันที

ว่านหางจระเข้คือพืชประจำบ้านที่มีสรรพคุณรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นสรรพคุณทางยาหรือเพื่อความงาม แต่การนำมาใช้ก็ต้องใช้อย่างถูกวิธีด้วยนะคะ อย่างไรก็ตามในปัจจุบันนั้นทางการแพทย์พอผู้ที่แพ้เนื้อวุ้นของว่านหางจระเข้น้อยมาก เพราะฉะนั้นก็ไม่ต้องกังวลว่าเราจะแพ้ได้ง่ายๆ นอกจากนี้อย่าลืมล้างยางที่เคลือบตัววุ้นออกด้วยทุกครั้ง เพราะไม่อย่างนั้นอาจเกิดการระคายเคืองผิวเมื่อนำมาใช้ได้ค่ะ