อีสุกอีใส การปฏิบัติและการรักษาโรคอีสุกอีใส 7 ข้อ !!

0
6240

อีสุกอีใส, โรคสุกใส, ไข้สุกใส (Chickenpox) อาการของโรคอีสุกอีใสเป็นอย่างไร ? วันนี้เรามีข้อมุลข้อควรปฏิบัติและวิธีรักษาโรคอีสุกอีใสที่หลายคนควรต้องรู้ เพื่อที่ให้ทุกคนนำไปปฏิบัติต่อตนเองและบุตรหลานของท่านเมื่อเป็นโรคนี้ เมื่อพร้อมแล้วเรามาดูข้อมูลกันเลย

7 การปฏิบัติและการรักษาโรค”อีสุกอีใส”ที่ใครๆก็ห้ามพลาด

โรคอีสุกอีใสคุณรู้จักบ้างหรือไม่เราขอทายเลยว่าคุณต้องรู้จักตั้งแต่เด็กแน่ๆถ้าคุณเคยผ่านโรคนี้มาแล้ว ซึ่งส่วนมากโรคนี้จะพบเห็นได้ในช่วงที่เด็กกำลังเจริญเติบโต แต่ถึงอย่างไรก็ดีเด็กก็ถือได้ว่าเป็นผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่างๆน้อยกว่าวัยอื่นๆ ฉะนั้น จึงไม่แปลกใจว่าโรคอีสุกอีใสนั้นจะเกิดขึ้นกับเด็ก ซึ่งโรคนี้เป็นโรคที่ยอดฮิต เป็นโรคที่ติดต่ออันดับรองจากโรคเหาก็ว่าได้ เพราะโรคเหานั้นเป็นโรคที่มักจะเกิดกับเด็ก เหตุที่เด็กยังอยู่ในช่วงเจริญวัยยังไม่สามารถที่จะรับรู้ในการรักษาสุขอนามัยได้เป็นอย่างดี ฉะนั้น เราจึงอาจจะเห็นโรคเหาที่เป็นโรคที่ปรากฏในวัยเด็กได้

และแม้ว่าเด็กจะมีสุขภาพผมที่ผู้ปกครองทำการหมั่นดูแลอย่างไรก็ตาม แต่ถ้าหากลูกหลานของคุณไปเล่นกับเด็กที่เป็นเหาแล้วล่ะก็รับรองได้ว่าเหานั้นก็สามารถที่จะเกาะผมลูกหลานคุณได้เช่นกัน ส่วนโรคอีสุกอีใสที่กล่าวมาข้างต้นนั้นก็เช่นเดียวกับเหาที่เป็นโรคติดต่อหากอยู่ใกล้กับผู้ที่เป็นโรคนี้ ซึ่งโรคอีสุกอีใสนี้สามารถที่จะติดต่อได้ในทางน้ำลายหรือเสมหะก็ดี ฉะนั้น เราจึงควรระวังผู้ที่เป็นโรคนี้ด้วยการไม่ใช้ของร่วมกัน

อีสุกอีใส

โรคอีสุกอีใสนั้นก็ตามชื่อลักษณะของโรคจะมีลักษณะใส ซึ่งการแตกตัวของตุ่มเล็กๆนั้นนำพาให้คุณสามารถที่จะติดเชื้ออีสุกอีใสได้ ฉะนั้น ผู้ป่วยจะต้องระวังตนเป็นพิเศษเมื่ออีสุกอีใสแตกขึ้นมา และคุณรู้หรือไม่ว่าการรักษาโรคอีสุกอีใสนั้นสามารถที่จะทำได้อย่างไรบ้างสำหรับการดูแลตนเองเมื่อเรารู้ว่าเป็นโรคอีสุกอีใส ซึ่งในที่นี้เราจะอธิบายเกี่ยวกับการดูแลรักษาโรคอีสุกอีใสเมื่อเกิดขึ้นกับเราแล้ว ดังนี้

1. การแยกตัว

ในเมื่อเรารู้ว่าเราเป็นโรคอีสุกอีใสแล้วสิ่งหนึ่งที่คุณควรที่จะคำนึงถึง คือ การที่คุณจะต้องทำการแยกตัวออกไปจากบริเวณที่มีผู้คนในทันที เพราะเหตุที่โรคอีสุกอีใสนั้นเป็นโรคที่ติดต่อได้ ซึ่งการติดต่อนั้นไม่ว่าจะเป็นการติดต่อในทางใดก็ตาม อย่างเช่น การติดต่อทางน้ำลายหรือการติดต่อทางระบบหายใจก็ทำให้เราสามารถที่จะติดโรคอีสุกอีใสนี้ได้ ฉะนั้น เพื่อเป็นการป้องกัน คุณควรที่จะทำการแยกออกจากผู้คนในระยะเวลาที่คุณมีอาการก่อน และแยกข้างของเครื่องใช้เป็นการส่วนตัวอีกด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อโรคแพร่กระจายไปมากกว่าเดิม

2. การพักผ่อน

การที่คุณมีการพักผ่อนไม่เพียงพอก็อาจจะเป็นเหตุให้คุณนั้นมีภูมิคุ้มกันต่ำได้ เมื่อมีภูมิคุ้มกันต่ำแล้วแน่นอนว่าโรคต่างๆที่ไม่พึงประสงค์ก็จะเข้ามาเยี่ยมเยียนได้ เช่นเดียวกันกับโรคอีสุกอีใสที่เป็นโรคชอบคนที่มีความอ่อนแอภายในร่างกายจะทำอะไรก็ทำได้ง่าย ฉะนั้น การพักผ่อนจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆสำหรับผู้ป่วยโรคอีสุกอีใสนี้

3. ดื่มน้ำให้มากๆ

การดื่มน้ำเป็นสิ่งหนึ่งที่คนเราต้องได้รับในปริมาณที่เพียงพอในแต่ละวัน หากคุณรับน้ำไม่เพียงพอแล้วคุณก็อาจจะเกิดอาการเจ็บป่วยหรือไม่มีความแข็งแรงได้ ฉะนั้น คุณจะต้องทำการดื่มน้ำให้มากๆในแต่ละวันอย่างน้อยก็ 8 แก้วต่อวัน

อาการอีสุกอีใส

4. เช็ดตัวเมื่อมีไข้สูง

การที่คุณเป็นโรคอีสุกอีใสก็อาจจะเกิดมีไข้บ้างในแต่ละวันจนกว่าโรคอีสุกอีใสนั้นจะบรรเทาลง ฉะนั้นเมื่อมีอาการของไข้ที่สูงระหว่างการเป็นโรคอีสุกอีใส คุณก็ต้องหาผ้าที่มีการชุบน้ำมาแล้วมาเช็ดตัวเพื่อให้ไข้ที่สูงนั้นลดลง

5. ไข้ไม่ลดรีบหาแพทย์ทันที

ถ้าหากคุณนั้นมีอาการของไข้ที่สูงขึ้นเรื่อยๆแม้จะได้มีการเช็ดตัวเพื่อให้ไข้ลดตามข้อที่กล่าวมาแล้ว แต่ไข้ของคุณนั้นก็ยังมีไข้ที่สูงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งไข้ที่สูงนั้นให้คุณสังเกตภายใน 2 วัน ถ้าหากไข้ไม่ลดลงเลยเมื่อได้ทำการเช็ดตัวแล้วคุณก็รีบไปหาแพทย์ได้ในทันทีเลย ซึ่งคุณจะต้องไปพบแพทย์ภายใน 24 ชั่วโมง เพราะมิเช่นนั้นแล้วคุณก็อาจจะเกิดอันตรายถึงชีวิตได้ อย่างเช่น เกิดอาการช็อก เป็นต้น

6. อยู่ในสถานที่ที่ถ่ายเทอากาศ

สถานที่ที่คุณอยู่นั้นก็มีผลต่อการดำเนินชีวิตระหว่างที่เป็นโรคอีสุกอีใสได้เช่นกัน เพราะหากสถานที่ที่คุณอยู่นั้นมีความอับ มีกลิ่นเหม็น ซึ่งหากสถานที่ที่เราอยู่เป็นเช่นนี้แล้วล่ะก็ ก็อาจจะเกิดโรคอีสุกอีใสที่มีความรุนแรงมากขึ้น เนื่องมาจากอีสุกอีใสนั้นก็เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสชนิดหนึ่ง ฉะนั้น การที่คุณเป็นโรคอีสุกอีใสแล้วจึงมีความจำเป็นที่จะต้องอยู่ในสถานที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก ดูปลอดโปร่ง โล่งสบาย ไม่อับชื้น เป็นต้น

วิธีรักษาอีสุกอีใส

7. รักษาอนามัย

ในการรักษาอนามัยในที่นี้ หมายถึง การรักษาอนามัยที่ตัวของผู้ป่วยเองให้มีความสะอาดอยู่เสมอนั่นเอง ทั้งนี้ ก็เพื่อให้คุณนั้นมีสุขภาพที่แข็งแรงมากขึ้น พร้อมที่จะต่อสู้กับโรคอีสุกอีใสได้

จะเห็นได้ว่า โรคอีสุกอีใส หากคุณได้มีการปฏิบัติตนในระหว่างที่เป็นโรคตามที่กล่าวมาข้างต้นใน 7 ข้อแล้วเราเชื่อว่าโรคอีสุกอีใสที่ดูน่าจะกำเริบหรือเป็นมากขึ้นก็สามารถที่จะลดลงหรือบรรเทาเบาบางได้ ซึ่งวิธีการรักษาโรคอีสุกอีใสดังกล่าวนั้นก็เป็นสิ่งที่คุณสามารถที่จะทำได้ในชีวิตประจำวัน ไม่ยากจนเกินไปที่จะไม่สามารถทำได้เลย เพียงแค่คุณมีความพร้อมที่จะสู้รบกับโรคอีสุกอีใสที่เกิดขึ้นแล้ว เพียงเท่านี้ไม่ว่าโรคเหล่านั้นจะมีลักษณะอย่างไรก็ตามคุณก็สามารถที่จะสู้โรคได้อย่างพร้อมและเต็มที่แล้ว

1 Star2 Stars3 Stars4 Stars5 Stars (No Ratings Yet)
Loading...