โรคไข้เลือดออก อาการ สาเหตุ ไข้เลือดออกเกิดจาก ??

โรคไข้เลือดออก อาการ สาเหตุ ของโรคไข้เลือดออก(ภาษาอังกฤษ Dengue hemorrhagic fever-DHF) เกิดจากยุงลาย เราสามารถสังเกตุ อาการ และการป้องกันได้ดังนี้.

“ยุงร้ายกว่าเสือ” ประโยคสั้นๆที่ใครหลายคนมองว่ามันไม่น่าเชื่อ แต่กลับกลายเป็นว่ามันสามารถเกิดขึ้นได้จริงในปัจจุบัน ในป่าที่คนส่วนใหญ่มักระวังเสือ จนลืมไปว่าตัวร้ายกาจคือ “ยุง” ที่พร้อมจะคร่าชีวิตเราให้ทรมานด้วยโรคไข้เลือดออกจนถึงแก่ชีวิตได้ ซึ่งไม่ใช่แค่ในป่าที่มีต้นไม้มีความมืดเท่านั้น ตามบ้านเรือนของเราในปัจจุบัน เป็นสถานที่อาศัยของ “ยุงลาย” ทั้งสิ้น จุดไหนก็ตามที่มีความมืด มีต้นไม้เยอะหน่อย มีน้ำขัง จุดนั้นจะเป็นแหล่งแพร่พันธุ์ของยุงลายที่สามารถนำโรคร้ายมาสู่คนใกล้ตัวคุณได้โดยที่คุณไม่รู้ตัว

โรคไข้เลือดออก สาเหตุ เริ่มต้นจากยุงลาย!!

ยุงลาย เป็นแมลงจำพวกหนึ่ง ซึ่งโดยปกติแล้วยุงลายนั้นมีมากกว่า 100 ชนิดด้วยกัน แต่ก็มีอยู่ชนิดหนึ่งเท่านั้นที่เป็นพาหะนำโรคร้ายอย่าง “โรคไข้เลือดออก” ก็คือยุงลายบ้าน ที่แพร่พันธุ์ได้รวดเร็วมากในปัจจุบัน ในรอบการของการขยายพันธุ์ในแต่ละครั้ง ได้เจ้ายุงตัวร้ายออกมาหลายร้อยตัวด้วยกัน การขยายพันธุ์ของยุงลาย ก็คือการวางไข่ สามารถไข่ได้ทุกที่ที่มีน้ำขังทิ้งไว้เป็นเวลานาน ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นช่วงฤดูฝน เพราะช่วงฤดูฝน ฝนตกหนัก จะเป็นช่วงที่มีน้ำขังมากมายตามบ้าน ตามชายป่า ตามที่มืด และช่วงบ้านคนจะเป็นช่วงที่อันตรายที่สุดแล้ว จึงมักจะมีการรณรงค์กันอยู่บ่อยครั้งเรื่องของการกำจัดแหล่งลูกน้ำยุงลาย เพื่อเป็นการกำจัดแหล่งขยายพันธุ์อย่างถาวร เพราะการกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายนั้นก็เหมือนเป็นการตัดวงจรการแพร่พันธุ์และมีชีวิต เพราะว่ายุงลายจะมีช่วงการเจริญเติบโตแต่ละช่วง คือระยะไข่ ระยะตัวอ่อน ระยะตัวดักแด้ และระยะตัวเต็มวัยที่สามารถมีปีกบินได้ และกลายเป็นพาหะของโรคไข้เลือดออกต่อไป

  “เพราะเชื้อไข้เลือดออก เป็นเชื้อไวรัสที่มียุงลายเป็นพาหะนำโรค เชื้อจะยังมีชีวิตรอดอยู่ในตัวยุงลาย มีการขยายพันธุ์เพิ่มจำนวนต่อไปเรื่อยๆ เมื่อยุงลายไปกัดคนที่มีเชื้ออยู่ในตัว คนต่อไปที่ถูกกัดก็จะกลายเป็นไข้เลือดออกต่อไป” 

เพราะเหตุนี้ผู้ใหญ่หลายคนจึงต้องระวังเรื่องของยุงลายกับเด็กๆ แต่ไม่ใช่แค่เด็กๆเท่านั้น ผู้ใหญ่เองก็ต้องระวังด้วย เพราะหลายคนเสียชีวิตเสียชีวิตด้วยไวรัสขากไข้เลือดออก บางคนไม่แสดงอาการ บางคนพบแพทย์ช้า เลยทำให้ถึงแก่ชีวิต

โรคไข้เลือดออก อาการ เริ่มต้นที่ต้องสงสัย !!

อาการเริ่มต้นของโรคไข้เลือดออก จะคล้ายกับอาการของไข้หวัดธรรมดา ซึ่งผู้ป่วยไข้เลือดออกหลายราย ต่างก็บอกกันว่าไม่รู้ว่าจะเป็นไข้เลือดออก เพราะอาการเริ่มต้นนั้นก็เหมือนไข้ธรรมดาทั่วไป แต่ระดับของไข้นั้นจะสูงกว่ามาก บางรายนั้นมีไข้สูงกว่า 40 องศา ไข้จะสูงมาก และไม่ลดลงง่ายๆแม้จะกินยาไปแล้ว หรือเด็กๆที่เช็ดตัวไปแล้วก็ไม่ลดลง เพราะว่ามีอาการเริ่มต้นที่ธรรมดาเหมือนอาการไข้หวัด ทำให้หลายคนพลาดที่จะทำการรักษาอย่างถูกต้อง หรือพลาดที่จะไปพบแพทย์ ทำให้รักษาช้าจนเกินไป สำหรับใครที่โดนยุงกัดบ่อย แล้วมีอาการเริ่มต้นดังนี้ แนะนำว่าต้องเฝ้าดูอาการตัวเองอย่างใกล้ชิดที่สุด

และอาการต่อไปนี้ เป็นอาการที่สงสัยได้ว่าเป็นไข้เลือดออก ต้องรีบพบแพทย์โดยเร็ว เพื่อทำการเจาะเลือดหรือตรวจหาเชื้อไวรัสไข้เลือดออก

• อาการปวดเมื่อตามร่างกาย ปวดตามข้อกระดูก ปวดเมื่อยตัว รู้สึกอ่อนเพลียร่างกายตลอดเวลา ทั้งๆที่ไม่เคยเป็นมาก่อน สังเกตตัวเองได้ง่ายๆว่าเมื่อมีไข้แล้ว รู้สึกปวดตามตัว ตามร่างกาย และอยากนอนมากกว่าเดิม
• อาการไข้ขึ้น ไข้ลง ไม่สม่ำเสมอ บางทีไข้ขึ้น บางทีไข้ก็ลง ซึ่งอาการไข้ขึ้นลงแบบไม่สม่ำเสมอแบบนี้ต้องคอยระวัง เพราะถ้าเกิดไข้ขึ้นมากที่สุด หรือไข้ลงต่ำสุด จะเกิดอาการช็อคได้ง่ายมาก ซึ่งยาลดไข้นั้นอาจจะใช้ไม่ได้ผลอีกต่อไปแล้ว ควรที่จะพบแพทย์ในทันที
• อาการซึมในเด็ก มักจะเกิดขึ้นบ่อยมาก สำหรับผู้ปกครองคนไหนที่เห็นลูกหลานในปกครองไม่ซน ไม่ดื้อ มีไข้และมีอาการซึมร่วมด้วย ไม่เหมือนนิสัยปกติของเด็กที่จะชอบเล่น ชอบดื้อ ถ้ารู้สึกว่ามีอาการซึมมากขึ้นแล้ว สมควรที่จะพบแพทย์โดยเร็วที่สุด

อาการน่าเป็นห่วงขั้นรุนแรง คืออาการที่มีจุดแดงเป็นเลือดเกิดขึ้นตามร่างกาย หรือมีเลือดออกตามร่างกาย ซึ่งอาการเหล่านี้เห็นชัดมาก ต้องพบแพทย์โดยเร็วที่สุด บางมีเลือดกำเดาไหล มีอาการหน้าแดงจัด ซึ่งในช่วงนี้จะเป็นช่วงที่ทั้งเลือดออกและไข้ลงต่ำ เป็นช่วงเวลาที่จะทำให้เกิดอาการช็อคจนถึงขั้นเสียชีวิตได้

สำหรับการรักษาไข้เลือดออกในปัจจุบันนี้ เป็นการรักษาแบบประคับประคองอาการ ใช้เวลาในการรักษา บางรายต้องนอนโรงพยาบาลเพื่อทำการรักษา ให้ยาลดไข้ ให้น้ำเกลือเป็นตัวช่วยชดเชยน้ำในร่างกายให้ร่างกายสามารถฟื้นตัวได้เร็ว สำหรับทางการแพทย์แล้ว การเฝ้าระวังอาการของผู้ป่วยไข้เลือดออกนั้นสำคัญมาก เพราะว่าผู้ป่วยสามารถเกิดอาการช็อคได้ทุกเมื่อทุกเวลา ในช่วงเวลาที่มีอาการขั้นรุนแรงจึงต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษอย่างยิ่ง

จึงเห็นได้ว่า “ยุง” ในปัจจุบันนี้ ย่อมร้ายกว่าเสือแน่นอน ถ้าเปรียบกับอัตราการเสียชีวิตที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จำเป็นจะต้องมีการกำจัดยุงลายอยู่เรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นการกำจัดแหล่งลูกน้ำยุงลาย การใช้สารเคมีพ่นเพื่อไล่ยุงลาย รวมไปถึงการปฏิบัติตัวให้ห่างไกลจากยุงลายให้มากที่สุดทั้งเด็กและผู้ใหญ่ การใช้ยาทากันยุง ยาจุดกันยุง หรือตะไคร้หอมที่เป็นตัวไล่ยุงได้เป็นอย่างดี นอนในห้องที่กางมุ้ง หรือติดมุ้งลวด ปฏิบัติตัวให้ห่างไกลจากยุงลายให้ได้ ก็จะพ้นจากโรคไข้เลือดออกได้อย่างแน่นอน

(1 votes, average: 5.00 out of 5)

Loading...