วิธีรักษาหลุมสิว โดยรักษาสิวแบบธรรมชาติ หรือ การใช้ยา การรักษาหลุมสิว 8 วิธีที่ทำได้ง่าย บางวิธีสามารถทำได้ด้วยตนเอง คุณจะรู้ว่าวิธีไหนดีที่สุดสำหรับคุณ
8 วิธีรักษาหลุมสิว เสริมหลุมสิวให้เต็ม
Contents
ถ้าจะให้พูดถึงในเรื่องของปัญหาที่กลายเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความกังวลสำหรับสาวๆในยุคปัจจุบัน หลุมสิวเองกลายเป็นปัญหาที่เรียกได้ว่าใหญ่เป็นอย่างมากที่จะต้องได้รับการจัดการและดูแล แต่อย่างแรกต้องทำความเข้าใจก่อนเลยว่าหลุมสิวคืออะไร โดยสามารถที่จะอธิบายได้คือ การที่สิวอักเสบแล้วเกิดการลุกลาม ซึ่งรามไปจนถึงเนื้อส่วนใดซึ่งทำให้สุดท้าย เนื้อบริเวณนั้นก็ยุบลงไปเป็นบ่อ
เบื้องต้น
ลอกผิวด้วยกรดผลไม้
โดยสำหรับใบหน้าที่เป็นหลุมสิว อีกหนึ่งวิธีรักษาคือการเลือกใช้กรดจากผลไม้ โดยสำหรับกรดเหล่านี้ก็จะมี AHA BHA PHA โดยสรรพคุณของการใช้กรดผลไม้เหล่านี้จะเป็นการผลัดเซลล์ผิวหนัง โดยจะช่วยทำให้รอยหลุมสิวนั้นตื้นขึ้น โดยกรดผลไม้แต่ละรูปแบนั้นจะมีประสิทธิภาพในเรื่องของการละลายเพื่อซึมผ่านผิวหนังที่แตกต่างกัน อาจจะใช้เป็นครีมที่มีส่วนผสมของกรดผลไม้หรือใช้เป็นผลไม้สด
มะละกอสุก
โดยในผลมะละกอสุกจะมีเอนไซม์ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเซลล์ผิวหนังให้หลุดออก วิธีการ นำมะละกอสุกมาล้างและทำการปอกเปลือกหลังจากนั้นบดให้ละเอียด แล้วค่อยพอกหน้าทิ้งเอาไว้เพียงแค่ 15 ถึง 20 นาทีแล้วค่อยล้างออก
ว่านหางจระเข้
สรรพคุณสำคัญคือช่วยในเรื่องของการทำให้ผิวนุ่มช่วยทำการผลัดเซลล์ผิวที่ตาย โดยใช้เป็นเนื้อว่านหางจระเข้บดละเอียดแล้วพอกหน้า ทิ้งไว้ 5-10 นาทีแล้วทำการล้างออก
น้ำมันมะพร้าว
ภายในน้ำมันมะพร้าวจะมีกรดลอริกช่วยต้านแบคทีเรียรวมไปถึงอนุมูลอิสระ ทำให้หลุมสิวอ่อนนุ่มและจางลง ซึ่งวิธีการคือทาน้ำมันมะพร้าวหลังจากล้างหน้า โดยจะทำในเวลาก่อนนอน
ครีมจากวิตามินเอ
สรรพคุณสำคัญของครีมที่มาจากวิตามินเอนั้นจะช่วยในเรื่องของการผลัดเซลล์ผิวให้ตื้นขึ้น รวมไปถึงช่วยในเรื่องของการกระตุ้นคอลลาเจน ซึ่งความสำคัญอยู่ตรงที่คอลลาเจนจะมาช่วยเติมเต็มหลุมสิวให้ตื้นขึ้น แต่สิ่งสำคัญคือถ้าเลือกจะใช้ครีมจากวิตามินเอไม่แนะนำให้ใช้กรดผลไม้ร่วมด้วย เนื่องจากว่าจะทำให้ผิวระคายเคืองจนสามารถทำให้ผิวลอก และอีกอย่างหนึ่งคือควรที่จะมีการเว้นระยะเวลาในการใช้ครีมจากวิตามินเอ
ยาจากวิตามินเอ(แบบรับประทาน)
โดยในเรื่องของสรรพคุณก็จะมีรูปแบบคล้ายคลึงกับครีมจากวิตามินเอ แต่จะแตกต่างตรงรูปแบบของยานั้นจะเป็นการกินหรือรับประทานเข้าไป โดยจะช่วยในเรื่องของการรักษาสิว และชะลอการทำงานของต่อมไขมันทำให้หน้าแห้ง และสามารถช่วยรักษาหลุมสิวได้ ข้อควรระวังคือผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากยาแบบรับประทาน อย่างที่ทราบกันดีว่าจะไปช่วยชะลอการทำงานของต่อมไขมันแต่ไม่ใช่แค่เพียงบนใบหน้า แต่จะเป็นต่อมไขมันทุกๆส่วนในร่างกายจึงทำให้ผิว ปาก ผมแห้ง
ขั้นสุดท้าย
เลาะพังผืดหลุมสิว
ซึ่งมีวิธีการรักษาหลุมสิวรูปแบบนี้จะมีการใช้เข็มสอดลงไปบริเวณใต้ผิวหนัง โดยเข็มนี้จะไปทำการตัดพังผืด และจะเลาะพังผืดไปทีละหลุม หลังจากทำก็อาจจะมีอะไรเข็มรวมไปถึงผิวหนังที่ช้ำจากการทำ แต่เมื่อแผลบริเวณนี้หายดีแล้วเราก็หลุมสิวก็จะตื้นขึ้น
กรอเกล็ดอัญมณี
เป็นวิธีรักษาหลุมสิวที่อาจจะไม่ค่อยได้ยินมากนัก แต่สำหรับวิธีนี้ก็เป็นผลดีที่ไม่ทำให้เกิดแผลหลังจากการรักษา แต่ข้อเสียอาจจะขึ้นอยู่กับในเรื่องของระดับหลุมสิว โดยอาจจะต้องทำหลายครั้ง
IPL
โดยวิธีการรักษาหลุมสิวจากการทำ ipl นั้นก็เป็นเหมือนกับการทำเลเซอร์ โดยจะเป็นการกระตุ้นคอลลาเจนที่อยู่ใต้ผิวให้สร้างตัวเพื่อที่จะทำให้หลุมสิวนั้นดูตื้นขึ้น และหลังจากทำก็จะมีการเกิดสะเก็ดแผลบริเวณที่ทำ และอาจจะต้องมีวิธีหรือเทคนิคในการดูแลหลังจากการทำด้วยเช่นกัน
ฉีดฟิลเลอร์
อีกวิธีที่จะช่วยในการรักษาหลุมสิวก็คือการใช้การฉีดฟิลเลอร์ ซึ่งเป็นหน้านั้น ก็จะเป็นเหมือนสารเติมเต็มแบบคอลลาเจน สำหรับฟิลเลอร์นั้นจากไม่แพ้เท่า Collagen แต่ในการฉีดฟิลเลอร์เพื่อรักษาหลุมสิวจะอยู่ได้ 6 เดือนถึง 1 ปีหลังจากฉีดไป 1 ครั้ง โดยรูปแบบนี้จะปลอดภัยกว่ารูปแบบอื่น
ศัลยกรรมหลุมสิว
อาจจะฟังแล้วเป็นวิธีที่รุนแรง แต่ในการศัลยกรรมรักษาหลุมสิวนั้นจะเหมาะสำหรับคนที่ไม่ว่าจะใช้วิธีใดๆก็ไม่สามารถรักษาหลุมสิวให้หายได้ หรือบางคนก็อาจจะมีหลุมสิวที่กว้างและลึก โดยจะต้องมีการปรึกษากลับทางโรงพยาบาลที่รับทำศัลยกรรมหลุมสิวเบื้องต้น เพื่อที่จะเลือกระดับการศัลยกรรมให้เหมาะกับหลุมสิวบนใบหน้า แนะนำว่าจะต้องเป็นโรงพยาบาลที่มีความชำนาญพอสมควร
ซึ่งนี่ก็เป็นวิธีเบื้องต้นในการรักษาและดูแลหลุมสิวสำหรับใครที่กำลังมีปัญหาในด้านนี้ เพราะหลายคนมีความคิดว่าการรักษาหลุมสิวให้หายเป็นเรื่องยาก แต่ถ้าจะให้พูดถึงวิธีรักษาหลุมสิวให้หายขาดก็มี ซึ่งทางนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเอง รวมไปถึงในการรักษาหลุมสิวนั้นก็จะต้องใช้ระยะเวลาพอสมควรให้คอลลาเจนที่อยู่ภายใต้ผิวหนังนั้นสร้างกลับมาให้เหมือนเดิม แต่ก็อาจจะใช้ครีมหรือวิธีการบำรุงควบคู่กันไปเพื่อลดระยะเวลา
(No Ratings Yet)
Loading...
