โรคงูสวัด อาการสาเหตุและวิธีรักษาโรคงูสวัด ที่ควรรู้ !!

0
9785

โรคงูสวัด (Shingles) คืออะไร อาการและ สาเหตุ การรักษาป้องกัน เป้นอย่างไร โรคงูสวัด เป็นแล้วไม่ต้องตกใจวันนี้ เรามาทำความรู้จักกับโรคงูสวัดกันให้มากขึ้น

โรคงูสวัดไม่ต้องตกใจ กับแนวทางรักษาและป้องกันที่ควรรู้

หลายๆ คนคงเคยได้ยินชื่อโรคงูสวัดและความเชื่อที่ว่าหากเกิดงูสวัดพันรอบเอวแล้วจะตายจนทำห้เกิดความหวาดกลัวกันไปตามๆ กันใช่มั้ยคะ แต่แท้ที่จริงแล้วนั้นโรคงูสวัดคืออะไร เกิดจากสาเหตุใดและมีวิธีรักษาหรือไม่กันแน่ วันนี้เราจะมาหาคำตอบไปพร้อมๆ กันค่ะ

โรคงูสวัด

โรคงูสวัด คือ โรคผิวหนังชนิดหนึ่งที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสที่ชื่อว่าVaricella zoster virus (VZV) สามารถพบได้ทั่วไปในทุกภูมิภาคของประเทศไทย ซึ่งไวรัสชนิดนี้ก่อให้เกิดโรค 2 ชนิดคือโรคอีสุกอีใสและโรคงูสวัดนั่นเอง ซึ่งโดยหลักทั่วๆ ไปแล้ว หากตอนเด็กๆ เราเคยเป็นโรคอีสุกอีใสเมื่อรักษาจนหายแล้วโตขึ้นเราจะไม่เป็นซ้ำอีก แต่! เจ้าเชื้อไวรัส VZV นี้ก็จะยังคงซ่อนตัวอยู่ในร่างกายของเรานะคะแต่มันอาจจะไม่แสดงอาการใดๆ ออกมาเลยเป็นเวลาหลายสิบปีหรืออาจจะตลอดชีวิต แต่หากช่วงไหนที่ร่างกายของเราอ่อนแอหรือมีการติดเชื้อต่างๆ จนทำให้ร่างกายอยู่ในภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น ติดเชื้อเอชไอวี นอนไม่พอ ป่วยหนัก หรือช่วงที่ร่างกายอ่อนแอ เชื้อ VZV ก็จะเริ่มแผลงฤทธิ์โดยการแบ่งตัวและแฝงตัวตาปมประสาทจนทำให้เกิดการติดเชื้อและอักเสบ จนผิวของเราบวมเป็นตุ่มใสเรียงตัวตามแนวเส้นประสาท ทำให้เกิดความเจ็บปวดเมื่อมีอะไรไปกระทบกับบริเวณนั้นอย่างมาก และนี่เองค่ะที่เป็นที่มาของโรคงูสวัด

อาการโรคงูสวัด

อาการโดยทั่วไปของโรคงูสวัดนั้น ผู้ป่วยมักจะเริ่มส่งสัญญาณด้วยอาการไข้ ตัวร้อนประมาณ 2-3 วัน จากนั้นตุ่มใสๆ จะเริ่มเกิดขึ้นกระจายตัวตามจุดต่างๆ โดยเฉพาะหน้าท้องและหลัง ตุ่มจะมีลักษณะคล้ายหยดน้ำ เป็นรอยกระจายตัวรอบๆ บริเวณและจะเริ่มลุกลามขึ้นเรื่อยๆ โดยแบ่งเป็นสามระยะ คือ

ระยะเริ่มต้น

อาจจะรู้สึกปวดแสบและร้อนผิวโดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งระยะแรกนี้เป็นช่วงที่ภูมิคุ้มกันในร่างกายของเราลดลงจนทำให้การติดเชื้อไวรัสเพิ่มขึ้น จึงรู้สึกปวดแสบปวดร้อนบริเวณปมประสทขึ้นมานั่นเองค่ะ

รักษาโรคงูสวัด

จากนั้นในระยะที่สอง

จะเริ่มมีผื่นแดงและตุ่มใสเกิดขึ้น โดยเกาะตัวกันเป็นกลุ่มๆ ตามบริเวณเส้นประสาทของร่างกาย เช่นตามแขน ขา รอบเอว หลังรวมไปถึงรอบศีรษะ ซึ่งตุ่มเหล่านี้สามารถแตกออกและตกสะเก็ดได้เองในระยะเวลาประมาณ 2 อาทิตย์

จากนั้นอาการของงูสวัดจะเข้าสู่ระยะที่สาม

คือหลังจากแผลตกสะเก็ดและหายดีแล้ว ผู้ป่วยอาจจะยังรู้สึกแสบร้อนอยู่ภายในร่างกายบริเวณเส้นประสาท ซึ่งอาการนี้อาจคงอยู่นานเป็นเดือน สำหรับผู้ป่วยที่อยู่ในวัยสูงอายุอาจจะรู้สึกปวดได้เป็นปีเลยทีเดียวค่ะ

ยารักษาโรคงูสวัด

สำหรับยาที่ใช้รักษาโรคงูสวัดโดยเฉพาะนั้นมียาชื่อว่าอะซัยโคลเวีย เป็นยาที่ได้รับการยอมรับและถูกใช้รักษางูสวัดมานานกว่า 20 ปี เนื่องจากใช้แล้วได้ผลดีและมีประสิทธิภาพเพราะช่วยยับยั้งการแบ่งตัวและการติดเชื้อของไวรัส VZV จึงช่วยรักษาโรคอีสุกอีใส งูสวัดหรือแม้กระทั่งโรคเริมได้ ยาอะซัยโคลเวียมีทั้งแบบยาเม็ด ยาแคปซูล ยาทาและยาฉีด ผู้ป่วยสามารถเลือกใช้ได้ตามความสะดวกของตัวเองหรือตามคำแนะนำของแพทย์ นอกจากนี้ยังมียาอีกสองชนิดที่ใช้รักษางูสวัด คือ วาลาซิโคลเวียร์และแฟมซิโคลเวียร์ ซึ่งเป็นยาที่มีประสิทธิภาพสูงและมีสรรพคุณเหมือนอะซัยโคลเวีย แต่มีข้อดีกว่าคือรับประทานเพียงแค่วันละ 3 เวลาเท่านั้น

ขณะที่อะซัยโคลเวียต้องกินถึงวันละ 5 เวลานั่นเองค่ะ ส่วนการดูแลแผลระหว่างที่เป็นงูสวัดนั้น ควรรักษาความสะอาดอย่างสม่ำเสมอเพื่อลดการแพร่กระจายและการติดเชื้อของแบคทีเรียบริเวณปากแผล ในผู้ป่วยบางรายแพทย์อาจจะแนะนำให้ใช้ยาฆ่าเชื้อร่วมด้วย เช่น ยาปฏิชีวนะหรือยาคล็อกซาซิวลิน ซึ่งจะช่วยลดการติดเชื้อ ลดการอักเสบ และทำให้แผลหายเร็วขึ้น

อาการโรคงูสวัด

โรคงูสวัดเป็นโรคที่มีการบันทึกทางการแพทย์และมีการศึกษาหาวิธีรักษาและดูแลผู้ป่วยตามแนวทางวิทยาศาสตร์มาอย่างยาวนานหลายสิบปี เพราะฉะนั้นใครที่กังวลหรือกลัวโรคงูสวัดตามความเชื่อโบราณของไทยที่ว่าเมื่อเกิดงูสวัดพันรอบเอวแล้วจะตายนั้น ก็ขอให้สบายใจได้เลยนะคะ เพราะว่าโรคชนิดนี้ไม่ได้ร้ายแรงอย่างที่ใครๆ หลายคนเคยเชื่อ เพราะสาเหตุที่เป็นก็เพียงแค่เพราะร่างกายของเราอยู่ในช่วงอ่อนแอและภูมิคุ้มกันต่ำจนเชื้อไวรัสที่แฝงตัวอยู่ในร่างกายออกมาแผลงฤทธิ์ จนทำให้เกิดการติดเชื้อและอักเสบขึ้นมานั่นเอง หากไปพบแพทย์ ทานยา และดูแลรักษาความสะอาดของตุ่มแผลงูสวัดตามที่แพทย์แนะนำ ใช้เวลาไม่เกินหนึ่งเดือนแผลของโรคงูสวัดก็จะหายเป็นปกติ แต่ในส่วนของอาการปวดแสบปวดร้อนลึกๆ บริเวณปมประสาทอาจหายเร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับอายุของผู้ป่วยและสภาพร่างกายที่แตกต่างกันออกไปค่ะ

รู้แบบนี้แล้วใครที่ยังมีความเชื่อแปลกๆ อย่างเช่น เราต้องตายเมื่อเป็นโรคงูสวัด หรืองูสวัดคือโรคร้ายแรงที่รักษาไม่ได้ หรือยังมีผู้ใหญ่ที่เชื่อว่าเมื่อเป็นงูสวัดแล้วต้องตายก็สามารถนำข้อมูลที่เรารวบรวมมาฝากกันในวันนี้ไปอธิบายให้ท่านเข้าใจได้นะคะ เพื่อที่เราจะได้ช่วยให้ข้อมูลที่ถูกต้องแก่คนอื่นๆ นอกจากนี้ยังช่วยลดความเชื่อผิดๆ และช่วยลดความวิตกกังวลที่มีต่อโรคงูสวัดลงได้ รวมไปถึงช่วยให้ผู้ที่กำลังป่วยเป็นงูสวัดสามารถเข้าใจการรักษาและดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีได้นั่นเอง

 

1 Star2 Stars3 Stars4 Stars5 Stars (No Ratings Yet)
Loading...