น้ำใบบัวบก มีสรรพคุณและประโยชน์มากมายคนส่วนมักรู้แค่เพียงว่าสามารถแก้ช้ำในได้ แต่จริงๆน้ำใบบัวบก มีประโยชน์ด้านอื่นๆอีกวันนี้เราจะพามาดูประโยชน์ด้านๆอื่นกัน
รู้ไว้ น้ำใบบัวบก มีประโยชน์มากกว่าแก้ช้ำใน
เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับใบบัวบกมาไม่มากก็น้อย ยกตัวอย่างเช่น เวลาเราอกหักเพื่อนๆ หลายคนก็มักจะล้อเลียนแล้วบอกให้ไปหาน้ำใบบัวบกมากินซะจะได้ช่วยแก้ช้ำใน ซึ่งจริงๆ แล้วใบบัวบกนั้นมีคุณประโยชน์อยู่หลายประการมากกว่าที่เรารู้อย่างคาดไม่ถึงเลยเชียวแหละ อย่างเช่น การทานน้ำใบบัวบกเป็นประจำจะช่วยทำให้เรานอนหลับสนิทขึ้นลดความกังวลภายในจิตใจ ลดความดันในโลหิต บำรุงสมอง ช่วยลดปัญหาเส้นเลือดขอด ขับพิษร้อนหรือระบายความร้อนในร่างกายของเรา อีกทั้งยังช่วยในการสมานแผลและรักษาโรคผิวหนังบางชนิดได้อีกด้วย ซึ่งจะเห็นได้ว่าคุณประโยชน์ของใบบัวบกที่เราได้ยกตัวอย่างไปนั้นล้วนแล้วแต่เป็นคุณประโยชน์ในด้านสุขภาพร่างกายเพียงเท่านั้น แต่เชื่อหรือไม่ว่ามันยังมีประโยชน์ในด้านสุขภาพผิวพรรณอีกด้วย
เนื่องจากใบบัวบกนั้นเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณช่วยบำรุงให้ผิวพรรณดูอ่อนเยาว์แถมยังช่วยยับยั้งการเกิดร่องริ้วรอยต่างๆ บนใบหน้าได้อีกด้วย ซึ่งเชื่อเหลือเกินว่าประโยชน์ในด้านนี้นั้นสาวๆ หลายคนจะต้องร้องว้าวและรีบไปหาซื้อเจ้าใบบัวบกกันอย่างแน่นอน และโดยส่วนใหญ่แล้วการทานใบบัวบกนั้นจะนิยมนำมาทำเป็นน้ำใบบัวบกเพื่อดื่มกันเสียมากกว่า แต่ถ้าหากจะกินสดๆ ทั้งใบและก้านนั้นเลยก็ได้ซึ่งอาจจะทานเป็นผักเคียงกับพวกเมนูลาบน้ำตก ส้มตำ หรือทานกับพวกเมนูน้ำพริกปลาทูผักต้มก็ได้แต่ต้องล้างน้ำให้สะอาดเสียก่อน นอกจากนี้เรายังสามารถนำใบบัวบกมาทำเป็นผลิตภัณฑ์พอกหน้าเพื่อบำรุงผิวพรรณอย่างที่ได้กล่าวไปแล้วได้อีกด้วย
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับเจ้าใบบัวบกกันก่อนดีกว่า ใบบัวบกถือเป็นไม้ล้มลุกขนาดเล็กที่เลื้อยแผ่ไปตามพื้นดิน ชอบพื้นที่แฉะ และจะมีรากฝอยงอกออกมาตามข้อชูใบที่ตั้งตรงขึ้นมา ส่วนใบนั้นมีลักษณะคล้ายใบบัว มีก้านชูใบที่ยาว ซึ่งคล้ายกับใบบัวบกเพียงแต่ว่ามันขึ้นอยู่ตามพื้นดินและมีขนาดเล็กกว่าเท่านั้นเอง ต่อไปเรามาดูคุณประโยชน์ในด้านต่างๆ ของน้ำใบบัวบกกันเลยดีกว่า
10 สรรพคุณและประโยชน์ของน้ำใบบัวบก
- ช่วยขับพิษร้อน ดับกระหาย และระบายความร้อนในร่างกาย เนื่องจากน้ำใบบัวบกจัดเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์เย็น ดังนั้นเมื่อร่างกายมีความร้อนจากพิษไข้ การอักเสบ หรือจากโรคที่เกิดขึ้นเพราะความร้อน เช่น โรคบิด ดีซ่าน หรือนิ่ว การทานใบบัวบกก็จะช่วยปรับสมดุลในร่างกายและขับพิษต่างๆ เหล่านั้นออกไป
- ช่วยสมานแผล ลดอาการักเสบบวมช้ำ และรักษาโรคผิวหนังบางชนิด เพราะในใบบัวบกมีสารไตรเตอร์ปินอยด์ (Triterpenoids) ซึ่งทำหน้าที่เพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระและทำให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น ดังนั้นก็จะส่งผลให้เลือดไปหล่อเลี้ยงยังผิวหนังที่เกิดแผลทำให้ผิวหนังสมานตัวได้ดี ซึ่งเราจะต้องนำใบบัวบกมาล้างน้ำให้สะอาดแล้วตำพอแหลกถึงจะนำมาพอกที่แผลได้
- ช่วยลดความดันโลหิต และแก้ปัญหาเส้นเลือดขอด ด้วยเหตุที่น้ำใบบัวบกช่วยทำให้หลอดเลือดและเส้นเลือดฝอยแข็งแรงขึ้นไม่แตกง่าย ซึ่งเป็นสาเหตุการเกิดเส้นเลือดขอด และยังช่วยลดภาวะความเครียดซึ่งเป็นสาเหตุภาวะความดันโลหิตสูง
- บำรุงประสาทและสมอง ยับยั้งการเกิดโรคอัลไซเมอร์ เพราะใบบัวบกเต็มไปด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระ
- บำรุงสายตาและระบบประสาทตา เนื่องจากในใบบัวบกนั้นมีวิตามินเอสูงมาก
- บรรเทาอาการอ่อนเพลีย ลดความกังวลภายในจิตใจ เพราะสารไตรเตอร์ปินอยด์ (Triterpenoids) จะช่วยกระตุ้นกลไกการทำงานของสมองไม่ให้เป็นคนขี้ตกใจ แถมยังช่วยทำให้ผ่อนคลายรู้สึกสงบจึงช่วยให้นอนหลับสนิทขึ้นอีกด้วย
- รักษาอาการติดเชื้อทั้งเชื้อไวรัสและเชื้อแบคทีเรีย แต่ในข้อนี้ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
- รักษาโรคหนังแข็งลดอาการปวดตามข้อ และลดการเกิดหนังแข็ง รวมทั้งทำให้การเคลื่อนไหวของนิ้วมือเป็นไปในทางที่ดีขึ้น
- บำรุงผิวพรรณ ยังยั้งการเกิดริ้วรอยก่อนวัย เนื่องจากในน้ำใบบัวบกมีสารที่ช่วยสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน ซึ่งสารเหล่านี้จะทำให้ผิวดูชุ่มชื้น อ่อนเยาว์ ไร้ริ้วรอย
- บำรุงเส้นผมและหนังศีรษะ เพราะจะทำให้เลือดไหลเวียนบนหนังศีรษะได้ดีจึงช่วยเลี้ยงให้รากผมแข็งแรง ลดอาการผมร่วง
และที่ได้กล่าวไปข้างต้นนั้นก็เป็นคุณประโยชน์ของใบบัวบกทั้งด้านสุขภาพร่างกายและสุขภาพผิวพรรณความงาม ซึ่งใครก็ตามที่ทำน้ำใบบัวบกดื่มเองที่บ้านก็ควรทานในปริมาณที่พอดี เช่น 50 มิลลิลิตรต่อวัน หรือถ้าทานใบสดก็เลือกเให้พอดี เช่น 10-20 ใบต่อสัปดาห์ แต่ไม่ควรทานติดต่อกันเกิน 10 วัน เนื่องจากใบบัวบกนั้นเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์เย็น ดังนั้นจึงไม่เหมาะสำหรับบุคคลที่มีร่างกายอยู่ในภาวะเย็นหรือพร่องเย็นอยู่แล้ว อย่างเช่น คนขี้หนาว หรือท้องอืดอยู่บ่อยๆ เพราะจะทำให้ธาตุในร่างกายเสียสมดุล และถ้าคนที่ทานใบบัวบกแล้วรู้สึกอ่อนเพลีย ใจสั่น รู้สึกหัวใจเต้นผิดจังหวะ เวียนศีรษะ หรือรู้สึกคันตามผิวหนัง ควรหยุดทานทันทีและควรพบแพทย์โดยด่วน เพราะสมดุลของร่างกายคนเรานั้นต่างกัน ฉะนั้นบางคนทานแล้วอาจจะส่งผลต่อร่างกายในทางไม่ดีได้หรือเกิดอาการแพ้นั่นเอง