อาการเจ็บคอ (Sore throat) เกิดจากหลายสาเหตุ เช่นแบคทีเรีย เชื่อไวรัส หรืออาจเกิดจาก โรคกรดไหลย้อน ทอนซิลอักเสบ อื่นๆ โดยมีวิธีรักษาอาการ เจ็บคอ ดังนี้
เจ็บคอ อาการเจ็บคอ สาเหตุ และวิธีการแก้ไขต่างๆ
อาการเจ็บคอนั้น นับว่าเป็นอาการที่พบเจอได้บ่อย ซึ่งเป็นกันได้ทุกวัยทุกช่วงอายุ ในทุกฤดู โดยเฉพาะในหน้าหนาว หรือหน้าฝน ซึ่งจะเป็นช่วงที่มีการกระจายเชื้อโรคไปได้ง่ายกว่าฤดูร้อน ทั้งนี้ สำหรับคำถามที่ว่า หากเราเจ็บคอนั้น เราควรจะทานยาอะไรให้หายเจ็บคอดี ซึ่งส่วนมาก มักจะคิดกันว่า ถ้าเจ็บคอก็ทานยาแก้อักเสบก็จะช่วยให้หายเจ็บคอได้ แต่ความเป็นจริงนั้น อาการเจ็บคอ ยังแบ่งได้หลายสาเหตุ จึงทำให้การใช้ยาที่ถูกกับโรคนั้น ไม่ใช่ยาแก้อักเสบเสมอไป
โดยสาเหตุของอาการเจ็บคอ นั้นเราจะสามารถแบ่งย่อยได้ออกเป็น 2 สาเหตุใหญ่ๆ คือ
อาการเจ็บคอที่เกิดจากการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ
เช่นเชื้อไวรัสจากโรค หวัด ไข้หวัดใหญ่ คออักเสบ กล่องเสียงอักเสบ โรคหลอดลมอักเสบ และจาการติดเชื้อแบคทีเรีย เช่น ต่อมทอนซิลอักเสบ ฝีรอบต่อมทอมซิล ไซนัสอักเสบ โรคคอตีบ ซึ่งโรคคออักเสบจาการติดเชื้อเป็นสาเหตุของอาการเจ็บคอที่พบได้บ่อยที่สุด
อาการเจ็บคอที่เกิดจากการอักเสบที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ
เช่น โรคกรดไหลย้อน ใช้เสียงมากเกินไป โรคจมูกอักเสบ สายเสียงอักเสบเรื้อรัง เนื้องอกในกล่องเสียงและคอ สารเคมี เครื่องดื่มแอลกฮอล์ การคาท่อเครื่องช่วยหายใจ การฉายแสง หรือจากยาเคมีบำบัด
นอกจากนี้เรายังสามารถแบ่งการเจ็บคอ ออกเป็นระยะเวลาที่เจ็บคอ ดังนี้
- การเจ็บคอแบบเฉียบพลัน มักมีอาการเฉียบพลัน เป็นๆหายๆ ร่วมกับมีอาการของระบบอื่นๆ เช่น เป็นไข้ เป็นหวัด ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามร่างกาย เป็นต้น
- การเจ็บคอแบบเรื้อรัง เป็นการเจ็บแบบต่อเนื่องเป็นเวลานาน บางรายก็อาจเดือนๆ มักมีเฉพาะอาการเจ็บคอเท่านั้น ซึ่งอาการเจ็บคอแบบเรื้อรังนี้ ถ้าหาสาเหตุพบและรักษาให้ตรงจุดของสาเหตุที่เกิด อาการเจ็บคอ ก็จะหายไปได้เอง
ส่วนการเจ็บคอที่เกิดจากอาการหวัดนั้น มีอยู่ 2 สาเหตุหลัก คือเกิดจากการติดเชื้อไวรัส และเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ส่วนใหญ่พบว่า อาการหวัดมักจะเกิดจากการติดเชื้อกลุ่มไวรัสมากกว่าการติดเชื้อแบคทีเรียโดยพบว่า ในผู้ป่วยที่เป็นโรคหวัด
ส่วนการแยกสาเหตุของหวัด ที่เจ็บคอนั้น ว่าจะเกิดจากการติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย จะสามารถดูเบื้องต้นได้จากอาการแสดงของผู้ป่วย คือ
- หากเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ผู้ป่วยจะไม่มีอาการไอ และไม่มีน้ำมูก มีจุดหนองที่บริเวณต่อมทอนซิล ต่อมทอนซิลบวมแดง มีฝ้าที่บริเวณลิ้น ซึ่งหากมีอาการดังกล่าวไม่แนะนำให้ไปซื้อยาฆ่าเชื้อรับประทานเอง แนะนำให้ไปปรึกษาเภสัชกรที่ร้านขายยาหรือไปพบแพทย์ เพื่อวินิจฉัยว่าควรได้รับการรักษาด้วยยาฆ่าเชื้อหรือไม่
- หากเกิดจากเชื้อไวรัส ผู้ป่วยมักมีน้ำมูก ไอ คอแดง เสียงเปลี่ยน ซึ่งอาการหวัดที่เกิดจากเชื้อไวรัสนี้ สามารถหายเองได้ด้วยภูมิต้านทานของร่างกายของเรา หากได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอ ส่วนใหญ่จะหายได้เองในระยะเวลา 3-4 วัน ดื่มน้ำอุ่นมากๆ และกลั้วคอด้วยน้ำเกลือจะช่วยให้หายเร็วขึ้น
ส่วนการใช้ยาแก้หวัดนั้น โดยมากจะเป็นยาบรรเทาอาการหวัดเท่านั้น เช่น ยาแก้แพ้ ยาบรรเทาอาการไอ และยาแก้คัดจมูก ในการรักษาอาการหวัด เจ็บคอ ในกรณีที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย มักจะใช้ยาปฎิชีวนะ หรือยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการเจ็บคอได้มีหลายชนิด
หากอาการหวัด เจ็บคอ เกิดจากการติดเชื้อไวรัส การรับประทานยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียก็ใช้ไม่ได้ผล เพราะยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียไม่สามารถฆ่าเชื้อไวรัสได้ นอกจากนั้นยังทำให้ผู้ป่วยมีความเสี่ยงที่จะได้รับผลข้างเคียงจากยาหรือความเสี่ยงที่จะแพ้ยาซึ่งเป็นอันตรายต่อร่างกาย รวมไปถึงมีความเสี่ยงต่อการดื้อยาของการติดเชื้อครั้งต่อไปซึ่งอาจนำมาซึ่งปัญหาใหญ่ต่อไปในอนาคต
ดังนั้นหากมีอาการหวัด เจ็บคอ จึงควรที่จะพิจารณาถึงสาเหตุก่อนว่าเกิดจากติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย ซึ่งหากไม่สามารถพิจารณาด้วยตนเองได้ แนะนำให้ปรึกษาเภสัชกร หรือพบแพทย์ก่อนเพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัยที่ถูกต้อง และได้รับการรักษาที่เหมาะสม ไม่แนะนำให้ซื้อยาฆ่าเชื้อมารับประทานเอง หากเกิดจากติดเชื้อแบคทีเรีย ก็สามารถใช้ยาฆ่าเชื้อได้
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุการเกิดคออักเสบก็มีอยู่หลายชนิด ซึ่งแพทย์และเภสัชกรสามารถแนะนำยาฆ่าเชื้อที่เหมาะสมต่อผู้ป่วยแต่ละรายได้ หากอาการเจ็บคอเป็นอาการหวัดที่เกิดจากเชื้อไวรัส ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ยาฆ่าเชื้อ โดยอาจใช้ยาอมต่างๆที่ช่วยบรรเทาอาการได้
ทว่า หากสาเหตุของการเจ็บคอ มาจากเชื้อแบคทีเรีย คุณหมอจึงจะจ่ายยาแก้อักเสบ ให้ซึ่งผู้ป่วยควรรับประทานอาหารอ่อนๆ และเลี่ยงอาหารรสจัด ของทอด ของมัน ควันบุหรี่ เครื่องดื่มแอลกฮอล์ รวมทั้งชา กาแฟ ที่อาจทำให้เกิดการระคายคอ
และควรหมั่นรักษาความสะอาดช่องปากด้วยการกลั้วคอด้วยน้ำเกลืออุ่น โดยผสมน้ำเกลือ1 ช้อนชากับน้ำอุ่น 1 แก้ว พยายามหลีกเลี่ยงฝุ่น ควัน ที่แออัด หรืออยู่ใกล้ชิดคนที่ไม่สบาย
งดใช้เสียงชั่วคราวและหมั่นสร้างความอบอุ่นให้ร่างกาย และนอนเยอะๆ รวมทั้งดื่มน้ำมากๆเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับเยื่อบุคอ ด้วยการดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 6 แก้ว
ทั้งนี้หากพบว่ามีอาการเจ็บคอร่วมกับอาการเหล่านี้ ควรพบแพทย์ ได้แก่
- หายใจลำบาก กลืนลำบาก
- มีไข้กว่า 38.3 องศาเซลเซียส
- มีผื่น คลำเจอก้อนที่คอ ไม่สามารถอ้าปากได้
- ปวดหูมาก หอบ
- มีอาการเจ็บคอเรื้อรังเกิน 1 สัปดาห์
- ผู้ป่วยมีประวัติเคยเป็นไข้รูมาติค โรคลิ้นหัวใจ
- ผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ อย่าง เอดส์ เบาหวาน หรืออยู่ระหว่างทำการรักษาด้วยยาเคมีบำบัด
ซึ่งหากผู้ป่วยมีอาการที่กล่าวมาข้างต้น ร่วมกับอาการเจ็บคอ ที่ไม่ได้เกิดจากการเป็นหวัดธรรมดานั้น ควรพบแพทย์โดยด่วน เพื่อทำการวินิจฉัยให้ตรงกับโรคอย่างรวดเร็ว เพื่อสามารถรักษาให้ตรงจุดที่สุด