ปวดหัวข้างขวา อาการปวดหัวที่หลายๆคนมักจะละเลยเช่นเดียวกับ อาการปวดหัวข้างซ้าย หลายๆคนมักจะคิดว่าเดี๋ยวก็หาย แต่แท้จริงแล้ว ปวดหัวข้างเดียว เหล่านี้นั้นเป็นหนึ่งในอาการไมเกรนซึ่งเป็นสัญญาณอะไรบางอย่างของร่างกายของเรา ซึ่งเราจะมาดูสาเหตุและวิธีแก้การปวดหัวข้างซ้ายและอาการปวดหัวข้างขวาที่ถูกต้องกัน
หลายๆคนที่เกิดอาการปวดหัวหรืออาการปวดศีรษะนั้นมักจะละเลยไปว่าเป็นไม่นานเดี๋ยวอาการปวดหัวนั้นก็จะหายไปเอง ซึ่งจริงๆแล้วนั้นอาการปวดหัวข้างขวาหรืออาการปวดหัวข้างเดียวนั้นเป็นอาการทางการทำงานของระบบประสาทที่เรานั้นมักจะพบบ่อยมากที่สุดเลยก็ว่าได้ หรือจะบอกว่าทุกๆคนนั้นย่อยเคยเกิดอาการปวดศีรษะต่างๆก็คงจะไม่ผิด

สาเหตุ ปวดหัวข้างขวา ปวดหัวข้างซ้าย เกิดจากอะไร?
Contents
ซึ่งอาการปวดหัวต่างๆนั้นก็จะมีอาการที่แตกต่างกันออกไป เช่น ปวดหัวข้างขวาจี๊ดๆ ปวดหัวข้างขวาด้านหลัง หรืออาการปวดหัวข้างขวาท้ายทอย เป็นต้น อาการปวดหัวข้างเดียวนั้นก็จะขึ้นอยู่กับสาเหตุต่างๆที่แตกต่างกันไป ซึ่งหลายๆคนที่เคยเกิดอาการปวดหัวนั้นมักจะคิดว่าเป็นอาการไมเกรน แต่แท้จริงแล้วนั้นอาการปวดหัวนั้นไม่ได้มีแค่อาการไมเกรนนี้เพียงอย่างเดียว ซึ่งสาเหตุของการปวดหัวแต่ละชนิดนั้นจะมีอะไรบ้าง มีอาการแตกต่างกันอย่างไร เราจะมาศึกษาไปพร้อมๆกันเลย
อาการปวดศีรษะบางครั้งรุนแรง บางครั้งพอรำคาญ บางคนก็ปวดหมดศีรษะ บางคนก็ปวดบริเวณหน้าผาก ต้นคอ เบ้าตา ซึ่งที่พบบ่อยคือ ปวดบริเวณขมับข้างใดข้างหนึ่ง (เป็นลักษณะของปวดศีรษะไมเกรน) ซึ่งคนส่วนใหญ่ก็จะรู้จักปวดศีรษะไมเกรนเท่านั้น แต่จริงแล้วอาการ/โรคปวดศีรษะข้างเดียว ยังมี สาเหตุ/แบบ/ชนิด ต่างๆอีก เรามาติดตามดูครับ ว่าอาการปวดศีรษะข้างเดียว (Hemicranial headache) มีสาเหตุจากอะไรบ้าง
อาการปวดศีรษะข้างเดียวที่เรานั้นมักจะเจอบ่อยๆนั้นคือ อาการไมเกรน หรือหลายๆคนที่เป็นนั้นจะเรียกอาการปวดหัวนั้นว่าปวดหัวไมเกรน ส่วนสาเหตุ/แบบ/ชนิด อื่นๆที่พบได้ไม่บ่อย ดังต่อไปนี้
- ปวดศีรษะคลัสเตอร์ (Cluster headache) นั้นจะมีอาการที่ปวดหัวชนิดที่ไม่ได้รายแรงแบบหนึ่ง ซึ่งอาการที่เราจะสังเกตุเห็นได้ชัดเจนคืออาการปวดหัวเป็นชุดๆ ซึ่งในการเกินแต่ละครั้งนั้นจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ละมักจะเกิดในช่วงเวลาเดิมๆของแต่ละวัน ซึ่งบางครั้งอาจจะเกิดการปวดขมับขวาตุบๆ หรือปวดบริเวณเบ้าตาด้านขวา
- ปวดศีรษะ SUNCT(Short- lasting Uni lateral Neuralgiform Headache attack with Conjunctival injection and Tearing) เป็นอาการปวดศีรษะข้างเดียวซึ่งจะเป็นแบบปวดเส้นประสาทและน้ำตาไหล ตาแดง
- ปวดศีรษะข้างเดียวแบบปวดเส้นประสาท ซึ่งในหลายๆครั้งที่เรานั้นเจออาการปวดหัวข้างเดียวนั้นมักจะเกิดร่วมกับอาการระบบประสาทอัตโนมัติผิด ปกติ (Short–lasting Unilateral Neuralgiform with cranial Autonomic features หรือเรียกย่อว่า SUNA)

ปวดหัวข้างขวา – ซ้าย ปวดหัวข้างเดียวแต่ละชนิดมีอาการอย่างไร?
หลักจากที่เราได้รูปประเภทของอาการปวดศรีษัข้างเดียวดังกล่าวแล้วนั้น ซึ่งต่อมาเราจะมาดูว่าในแต่ละอาการปวดศีรษะข้างเดียวแต่ละชนิดนั้นมีในเรื่องของอาการที่เราจะพบเจอ ในแต่ละอาการนั้นจะมีลักษณะอาการเด่นอย่างไรบ้าง ซึ่งแต่ละชนิดนั้นจะมีอาการเด่นๆที่เราเห็นได้ชัด ดังนี้
อาการปวดศีรษะข้างเดียว โดยมีอาการต่างๆเหล่านี้เกิดขึ้นด้วยคือ ปวดบริเวณขมับ เบ้าตา หน้าผากและ รอบๆตา ด้านใดด้านหนึ่ง ซ้าย หรือ ขวา ก็ได้เพียงด้านเดียว หรือปวดขมับซ้ายเบ้าตา
- ธรรมชาติของโรคที่ทำให้เกิดอาการปวดศรีษะต่างๆเหล่านี้มีด้วยกันอยู่ 2 แบบ ได้แก่
แบบที่ 1 จะมีอาการที่แบบเป็นๆ หายๆ ซึ่งในกลุ่มนี้นั้นจะเป็นอาการปวดศีรษะคลัสเตอร์ , ปวดศีรษะ SUNCT, และ ปวดศีรษะ SUNA ที่เราได้กล่าวไปแล้วในข้างต้น
แบบที่ 2 จะมีอาการที่ปวดหัวอยู่แบบเป็นตลอดเวลานั้นจะเป็นปวดศีรษะ SUNCT บางราย
และอีกหนึ่งรูปแบบคืออาการปวดศีรษะข้างเดียวแบบไม่เปลี่ยนข้างตลอดเวลา (Hemicranial continua) ซึ่งในแบบสุดท้ายนี่เราจะไม่ได้พูดถึงในที่นี่ - ลักษณะอาการปวดนั้นจะแบ่งออกเป็น 3 ลักษณะดังต่อไปนี้
อาการปวดตุ้บๆ แบบไมเกรน เช่น ปวดศีรษะคลัสเตอร์
แต่ถ้าหากว่าปวดตื้อๆ ตุ้บๆ ตลอดเวลา เช่น Hemicranial continua
และหลายๆคนที่ปวดหัวที่มีลักษณะแบบปวดเสียวแปล๊บๆ ซึ่งจะเป็นการปวดจากเส้นประสาทนั้นจะเป็นอาการปวดหัวของการปวดศีรษะ SUNCT, และปวดศีรษะ SUNA - นอกจากอาการที่กล่าวมาด้านบนนั้นยังมีอาการของระบบประสาทอัตโนมัติที่ผิดปกติร่วมด้วย เช่น น้ำตาไหล ตาบวม น้ำมูกไหล ลืมตาลำบาก ตาแดง เป็นต้น
ซึ่งถ้าหากไปพบแพทย์แล้วนั้น เราควรที่จะต้องบอกอาการที่แพทย์นั้นบอกอย่างละเอียด เพื่อให้แพทย์นั้นสามารถทำการวินิตฉัยได้อย่างตรงจุดและสามารถรักษาได้อย่างถูกต้อง
อาการปวดข้างขวาหรือปวดหัวข้างซ้ายหรือปวดหัวข้างเดียวทั้ง 3 ชนิดที่เราได้กล่าวไปนั้นจะเป็นกลุ่มที่เรานั้นจะตรวจไม่พบความผิดปกติในสมอง (Primary headache) แต่อย่างใด แต่อาการต่างๆเหล่านั้นจะเกิดจากความผิดปกติของระบบประสาทอัตโนมัติของประสาทสมอง ซึ่งความผิดปกติดังกล่าวนี้ทำให้เกิดอาการต่างๆตามมาไม่ว่าจะเป็นการปวดหัวข้างขวาหรือปวดหัวข้างซ้ายเป็นต้น

วิธีแก้หรือรักษาอาการปวดหัวข้างเดียว แต่ละประเภทเบื้องต้น?
ถัดมาหลังจากที่เราได้รู้ว่าอาการปวดหัวข้างเดียวไม่ว่าจะเป็นอาการที่เรามักจะพบเจอบ่อยๆเช่นปวดหัวข้างขวาหรืออาการปวดหัวข้างซ้ายนั้นเราจะมาดูในส่วนของวิธีการรักษาหรือรักษาอาการปวดหัวต่างๆนี้ได้ด้วยวิธีใดบ้าง ซึ่งเราจะแบ่งตามอาการที่เราพบเจอและวิธีการแก้ไขดังต่อไปนี้
อาการปวดหัวไมเกรน (Migraine) ที่เรียกได้ว่าเกิดขึ้นบ่อยมากที่สุดเลยก็ไม่ผิดนักซึ่ง อาการไมเกรนนี้จะมีอาการปวดหัวข้างขวาข้างเดียวหรืออาจจะปวดหัวข้างซ้าย แบบปวดแบบหนัก ๆ ซึ่งในผู้ที่มีอาการนี้ที่อาการหนักมากๆนั้นอาจจะมีอาการต่างๆข้างเคียงเช่นอาจวียนศีรษะหรืออาเจียนร่วมด้วย นอกจากนั้นแล้วผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการปวดหัวทั้งสองข้างแบบปวดตุบ ๆ ซึ่งถ้าหากมีอาการต่างๆเหล่านี้นั้นจะเป็นอาการปวดหัวไมเกรนโดยทั่วไปแล้วจะนับเป็นโรคปวดหัวเรื้อรังชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นบ่อยที่สุด
วิธีรักษาปวดหัวไมเกรน สำหรับในเรื่องของการรักษาไมเกรนในเบื้องต้นนั้นเราเองสามารรถรับประทานยาบรรเทาอาการปวดต่างๆได้ ซึ่งเราอาจจะใช้ยาแก้ปวดที่เป็นยาจำพวกอะซีตะมิโนเฟน (Acetaminophen), ทริปเทนต์ (Triptan) และ ไอบูโพรเฟน แต่อย่างไรก็ตามนั้นผู้ที่ป่วยเป็นอาการต่างเหล่านี้นั้นควรที่จะได้รับการรักษาจากแพทย์โดยตรงเพื่อให้สามารถที่จะรักษาได้อย่างรวดเร็วและถูกต้องตามอาการที่เกิดขึ้นจริง
อาการปวดหัวชนิดคลัสเตอร์ (Cluster Headache) เป็นอีกหนึ่งอาการที่เรานั้นจะพบบ่อยมาก ซึ่งจะมีอาการปวดศีรษะเป็นครั้งๆ ในแต่ละครั้งนั้นจะรู้สึกปวดหัวอยู่เป็นระยะๆ บางที่ก็ปวดนานอยู่เพียง 5 นาที แต่บางทีก็นานมากถึง 3 ชั่วโมงซึ่งก็ขึ้นอยู่กับอาการของแต่ละคน และอาการปวดหัวชนิดคลัสเตอร์นี้จะเกิดขึ้นบ่อยในช่วงเวลาเดิมๆของแต่ละวัน นอกจากอาการปวดหัวแล้วนั้นมักจะมีอาการต่างๆร่วมด้วยเช่นน้ำตาไหลข้างเดียวและมีเส้นเลือดแตกในตาเป็นเหตุทำให้เกิดอาการตาแดงขึ้นได้
วิธีรักษาอาการปวดหัวคลัสเตอร์นั้นสามารถรักษาหรือบรรเทาอาการได้ด้วยตัวเองโดยใช้ยากลุ่มทริปเทนต์ (Triptan) หรือยารักษาโรคไมเกรน นอกจากนั้นแล้วการสูดดมออกซิเจนขนาด 10 ลิตรก็สามารถบรรเทาอาการนี้ได้เช่นเดียวกัน

ป้องกันการเกิดอาการปวดหัวข้างเดียวเบื่องต้นได้อย่างไรบ้าง ?
สำหรับอาการปวดหัวข้างขวาหรือปวดหัวข้างซ้ายนั้นเมื่อเราเจออาการต่างๆเหล่านี้กับตัวเราเองแล้วนั้น เบื่องต้นถ้าหากว่ามีอาการไม่หนักมากให้ลองบรรเทาอาการต่างๆด้วยตัวเองก่อน ในข้อมูลทางการศึกษานั้นยังไม่มีข้อมูลที่แน่ชัดว่าจะสามารถป้องกันได้ทั้งหมด ซึ่งเบื้องต้นนั้นเราจะสามารถป้องกันอาการต่างๆเหล่านี้ได้โดย
- ออกกำลังการอยู่สม่ำเสมอ ซึ่งการออกกำลังอยู่เป็นประจำนั้นจะช่วยให้เรานั้นมีสุขภาพที่ดี
- นวดผ่อนคลายกล้ามเนื้อต้นคอและขมับ การผ่อนคลายนี้ก็สามารถช่วยได้เช่นเดียวกัน
- ใช้สายตาให้เหมาะสม ปัจจุบันนั้นหลายๆคนมีสาเหตุการปวดหัวมาจากการใช้สายตาเพ่งนานที่จอโทรศัพท์ซึ่งตรงส่วนนี้ก็ควรที่จะหลีกเลี่ยงการใช้สายตาที่ไม่เหมาะสมด้วย
- ใช้แสงสว่างให้เพียงพอในการอ่านหนังสื่อ แสงสว่างที่พอเพียงไม่มาก ไม่น้อยจนเกินไปนั้นจะช่วยได้เช่นเดียวกัน
- พักผ่อนให้เพียงพอและเหมาะสม นอนให้เป็นเวลา ไม่ดืมแอลกอฮอล์
ซึ่งถ้าหากทำตามคำแนะนำต่างๆเหล่านี้ก็จะช่วยลดอาการปวดหัวข้างขวาหรืออาการปวดหัวข้างเดียวนี้ลงได้บ้าง แต่ถึงอย่างไรก็ตามเพื่อให้ได้รับคำแนะนำที่ถูกต้องนั้นผู้ที่มีอาการปวดหัวอาการต่างๆนั้นไม่ว่าจะเป็นอาการไมเกรนหรืออาการอย่างอื่นๆควรจะไปพบแพทย์และได้รับคำแนะนำที่เหมาะสม
เพื่อนำไปสู่การรักษาที่ถูกต้องถูกวิธี เพราะอาการปวดหัวนั้นอาจจะมีสาเหตุหรือโรคอื่นๆแทรกซ้อนนอกเหนือจากที่เราได้กล่าวไปในข้างต้น ซึ่งถ้าหากว่าใครที่มีประสบการณ์หรือมีคำแนะนำเกี่ยวกับการปวดหัวข้างเดียวนี้ก็สามารถที่จะคอมเม้น แชร์ประสบการณ์ต่างๆได้ที่ด้านล้างนี้ได้เลย
Source: https://www.health.harvard.edu/pain/headache-when-to-worry-what-to-do